วิธีการซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server 2016 ให้ถูกต้อง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ลิขสิทธิ์ Windows Server 2016 เค้านับการซื้อให้ถูกต้องจากอะไร
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ลิขสิทธิ์ Windows Server 2012 R2 Standard จำหน่ายโดยนับตามจำนวน CPU เป็นหลัก โดยในรุ่น Windows Server 2012 R2 Standard สามารถใช้ได้กับ Server ที่มี 1-2 CPU และไม่เกิน 4CPU สำหรับ Windows Server 2012 R2 DataCeter ซึ่งง่ายต่อความเข้าใจที่ว่า ถ้าเราซื้อเครื่อง Server ซักหนึ่งเครื่องที่มี CPU ติดตั้งมา 2 ตัวก็เลือกซื้อแค่ Windows Server 2012 R2 Standard ถ้ามี CPU ติดตั้งมา 4 ตัวก็เพียงแค่ซื้อ Windows Server 2012 R2 DataCeter จำนวน 1 License ก็เป็นการถูกต้องในการใช้งานแล้ว แต่อย่าลืมว่า Windows Server 2012 R2 Standard ยังสามารถที่จะให้เราลง Windows Server 2012 R2 Standard ภายใต้ Hyper-V ได้อีก 2 Instance และแบบไม่จำกัดจำนวนการลงภายใต้ Windows Server 2012 R2 DataCenter
ดังนั้นถ้าเราซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server 2012 R2 Standard ก็มีความหมายว่าเรามีเครื่อง Server ถึง 3 ตัวอยู่ในเครื่องเดียวกัน คือการลง Windows Server 2012 R2 Standard ภายใต้ฮาร์ดแวร์หลัก 1 ตัว และลง Windows Server 2012 R2 Standard ภายใต้ฮาร์ดแวร์เสมือน Hyper-V (เป็นชื่อเรียก Software Virtualmachine ของ Microsoft) ได้อีก 2 ตัว โดยถูกต้องลิขสิทธิ์ ดังนั้นโดยรวมแล้วการซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server 2012 R2 Standard ก็ทำให้คุณสามารถใช้งานกับ Server ที่มี CPU ได้ 2 ตัว และมี Server มากถึง 3 ตัว
ส่วนของ Windows Server 2012 R2 DataCeter จะเปลี่ยนไปแค่ สามารถลงกับเครื่อง Server ที่มี CPU ได้ถึง 4 คัว และติดตั้ง Windows Server 2012 R2 ภายใต้ฮาร์ดแวร์เสมือน Hyper-V (เป็นชื่อเรียก Software Virtualmachine ของ Microsoft) ได้ไม่จำกัดจำนวน
เมื่อการใช้งานระบบ Virtualization บนเครื่อง Server ได้รับความนิยมอย่างมาก การทำฮาร์แวร์เสมือนและติดตั้ง Operating System ภายใต้เซอร์ฟเวอร์ตัวเดียวมีจำนวนมากขึ้น การนับ License สำหรับการติดตั้งบนฮาร์แวร์เสมือนจึงมีวิธีคิดการนับ License แบบใหม่บน Windows Server 2016 โดย Microsoft ขาย License ขั้นต่ำสำหรับ Server หนึ่งตัวคือ 8 License โดย 1 License มีลิขสิทธิ์การใช้งานบน CPU ได้ 2 Core
ตัวอย่าง 1 : Server ที่มี CPU Intel Xeon E3-1220 v5 3.0GHz 4-Core/4Threads จำนวน 1 ตัว ถ้านับแล้วเครื่อง Server ตัวนี้มี CPU แค่ 4 Core แต่ต้องซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server 2016 จำนวน 8 License 16 Core (1 License = 2 Core) Microsoft บังคับการซื้อขั้นต่ำ 8 License ต่อ 1 Server ดังนั้นเราจึงไม่มีสิทธิ์ซื้อแค่ 2 License 4 Core ตามจำนวนจริงของ CPU
ตัวอย่าง 2 : Server ที่มี CPU Intel Xeon E5-2630 v4 2.2GHz 10-Core/20Threads จำนวน 2 ตัว ถ้านับแล้วเครื่อง Server ตัวนี้มี CPU 2 ตัว และมีจำนวน Core รวมแล้ว 20 Core ดังนั้นการซื้อลิขสิทธิ์ Windows Server 2016 จะต้องซื้อจำนวน 10 License 20 Core (1 License = 2 Core)
สิทธิ์การใช้งาน Windows Server 2016 แบ่งเป็น 2 ส่วน
1. สิทธิ์ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ในรูปแบบ Core License
เป็นสิทธิ์การใช้งานเพื่อการติดตั้ง Windows Server 2016 บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์โดยคิดตามจํานวน Core ที่อยู่บนเครื่อง
Edition ต่างๆ ของ Windows Server 2016
Windows Server 2016 มีวางจําหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นคือ Standard และ Data Center ดูการเปรียบเทียบฟีเจอร์ที่มีในรุ่นที่เริ่มสามารถสร้าง Virtualization ในรุ่น Standard และ Data Center ได้ดังตารางด้านล่าง
หลักการคิดสิทธิ์การใช้งานรูปแบบ Core-base License
- สิทธิ์การใช้งานต้องครอบคลุมจํานวน Physical core
- จํานวน core ขั้นตํ่า 8 core ต่อ 1 ตัวประมวลผล (CPU)
- จํานวน core ขั้นตํ่า 16 core ต่อเครื่องเซิร์ฟเวอร์
- ถ้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์มีจํานวน core เกิน 16 core ลูกค้าสามารถซื้อเพิ่มได้ครั้งละ 2, 4, 6 หรือ 8 core
- ราคาของ Windows Server 2016 รุ่น Standard และรุ่น Data Center ที่ครอบคลุม จํานวน 16 core จะมีราคาเท่ากับ Windows Server 2012 R2 (2 CPU และ 2 VM) ในรุ่น Standard และไม่จํากัด VM ในรุ่น Data Center
หมายเหตุ:
- จํานวน VM (Virtual Machine) ที่ใช้ได้จะเป็นไปตามข้อกําหนดของแต่ละรุ่น
- ราคาไม่เปลี่ยนแปลงและได้รับสิทธิ์การสร้าง VM ได้ตามข้อกําหนดของแต่ละรุ่น
2. Client Access License (CAL)
เป็นรูปแบบสิทธิ์การใช้งานของเครื่องไคลเอ็นต์ในการเข้าใช้ทรัพยากรบนเครื่องเซิร์ฟเวอร์ โดยสามารถเข้าใช้งานเซิร์ฟเวอร์ได้มากกว่า 1 เครื่องที่เป็นเวอร์ชันเดียวกันหรือเวอร์ชั่นตํ่ากว่า CAL แบ่งเป็น 2 ประเภท
User CAL: คิดตามจํานวนผู้ใช้ โดย 1 User CAL จะอนุญาตให้ผู้ใช้ 1 คนเข้าใช้บริการบนเซิร์ฟเวอร์ได้จากทุกอุปกรณ์
Device CAL: คิดตามจํานวนอุปกรณ์ โดย 1 Device CAL จะอนุญาตให้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ได้จาก 1 อุปกรณ์เท่านั้น แต่ไม่จํากัดจํานวนผู้ใช้อุปกรณ์นั้นๆ
เปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก Windows Server 2016 กับ 2012 R2 และ 2008 R2