คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการซื้อ Windows Server 2016 License
Windows Server 2016 เป็น Windows Server รุ่นแรกที่นับการจำหน่ายแบบ Core Base License เนื่องจาก ปัจจุบันมีการนำ Physical Server มาทำ เป็น VM เป็นจำนวนมาก Microsoft เลยนับการจำหน่ายลิขสิทธิ์เป็นแบบ Core Base License เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบปัจจุบัน
Windows Server 2016 ลิขสิทธิ์มีกี่แบบ
- ลิขสิทธิ์ Windows Server 2016 ที่ขายมาพร้อมกับเครื่องใหม่ที่เป็นเครื่อง Brand เช่น Dell, HPE, Lenovo
- ลิขสิทธิ์นี้ใช้ได้กับเครื่อง Brand ที่ระบุเช่น Windows Server 2016 ROK ของ Dell จะสามารถใช้ได้กับเครื่องยี่ห้อ Brand Dell เท่านั้น
- ลิขสิทธิ์ที่ติดอยู่กับเครื่องนั้นๆ ไม่สามารถนำลิขสิทธิ์ไปใช้กับเครื่องอื่นได้ แม้ไม่ได้ใช้เครื่องเดิมแล้ว
- มีแผ่น Program ติดตั้งมาให้ พร้อมกับ Sticker Product Key สำหรับการ Activate ให้เป็นลิขสิทธิ์แท้
- ได้รับสิทธิ์ในการ Downgrade ใช้งานในรุ่นที่ต่ำกว่าตามที่ Microsoft ระบุ
- ผู้ใช้จะต้องเก็บชุดลิขสิทธิ์นี้และอุปกรณ์ให้ครบ และตรงกับเครื่องที่ติดตั้ง เพื่อความถูกต้องของลิขสิทธิ์เมื่อเจ้าที่ลิขสิทธิ์ขอตรวจสอบ
- ลิขสิทธิ์ที่ขายมาพร้อมกับเครื่องใหม่ที่เป็นการซื้อสิทธิ์จาก Microsoft
- ลิขสิทธิ์นี้ใช้ได้กับเครื่อง Brand ทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ HPE, Dell, Lenovo Etc.
- ลิขสิทธิ์ที่ติดอยู่กับเครื่องนั้นๆ ไม่สามารถนำลิขสิทธิ์ไปใช้กับเครื่องอื่นได้ แม้ไม่ได้ใช้เครื่องเดิมแล้ว
- มีแผ่น Program ติดตั้งมาให้ พร้อมกับ Sticker Product Key สำหรับการ Activate ให้เป็นลิขสิทธิ์แท้
- ได้รับสิทธิ์ในการ Downgrade ใช้งานในรุ่นที่ต่ำกว่าตามที่ Microsoft ระบุ
- ผู้ใช้จะต้องเก็บชุดลิขสิทธิ์นี้และอุปกรณ์ให้ครบ และตรงกับเครื่องที่ติดตั้ง เพื่อความถูกต้องของลิขสิทธิ์เมื่อเจ้าที่ลิขสิทธิ์ขอตรวจสอบ
- ลิขสิทธิ์การใช้งาน Windows Server 2016 บนเครื่องยี่ห้อใดก็ได้
- ลิขสิทธิ์ที่สามารถใช้งานกับเครื่องใหม่, เครื่องเก่า หรือเครื่องที่ติดตั้งลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้อง
- ผู้ใช้จะได้เอกสารรับรองสิทธิ์การใช้งานจาก Microsoft ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ Download .iso ไฟล์ และสามารถเช็ค Product Key ได้จาก Website Microsoft VLSC
- ได้รับสิทธิ์ในการ Downgrade ใช้งานในรุ่นที่ต่ำกว่าตามที่ Microsoft ระบุ
- ได้รับสิทธิ์ในการย้าย Software ไปใช้งานในเครื่องใหม่ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เดิมไม่ได้ใช้งานแล้ว
- ข้อมูลในการสั่งซื้อทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ใน VLSC ทำให้ง่ายต่อการเก็บรักษาและตรวจสอบ
- ลิขสิทธิ์การใช้งาน Windows Server 2016 บนเครื่องยี่ห้อใดก็ได้
- ลิขสิทธิ์ที่สามารถใช้งานกับเครื่องใหม่, เครื่องเก่า หรือเครื่องที่ติดตั้งลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้อง
- ได้รับสิทธิ์ในการย้าย Software ไปใช้งานในเครื่องใหม่ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เดิมไม่ได้ใช้งานแล้ว
- ไม่สามารถ Downgrade ไปใช้ใน Version ที่ต่ำกว่าได้ ซื้อรุ่นไหน ใช้รุ่นนั้น
- มีแผ่น Program ติดตั้งมาให้ พร้อมกับ Sticker Product Key สำหรับการ Activate ให้เป็นลิขสิทธิ์แท้
- ผู้ใช้จะต้องเก็บชุดลิขสิทธิ์นี้และอุปกรณ์ให้ครบ และตรงกับเครื่องที่ติดตั้ง เพื่อความถูกต้องของลิขสิทธิ์เมื่อเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ขอตรวจสอบ
สิทธิ์ในการ Downgrade ของ Windows Server 2016 แต่ละ Version
Windows Server 2016 ลิขสิทธิ์มีกี่รุ่น
Windows Server 2016 แบ่งออกได้เป็น 3 รุ่น
Windows Server 2016 Essential
Windows Server 2016 Essential น้องเล็กสุด ที่ออกแบบให้กับบริษัทฯ ที่มี User ใช้งานไม่เกิน 25 คน โดย Windows Server 2016 Essential นี้ ไม่จำเป็นต้องซื้อ สิทธิ์ Windows Server CAL สำหรับเครื่องลูกข่ายที่เข้าใช้งานเครื่อง Server ภายใน Network เดียวกัน รองรับการทำงาน 2 CPU แต่ไม่รองรับการใช้งานแบบ Virtualization
Windows Server 2016 Standard
Windows Server 2016 Standard เป็น Windows Server ที่รองรับการใช้งาน 2 CPU รองรับการใช้งาน Virtualization ได้ 2 VM และต้องซื้อ Windows Server CAL ควบคู่การใช้งานตามจำนวน User หรือ Device ที่เข้าใช้งาน Server
Windows Server 2016 DataCenter
Windows Server 2016 DataCenter เป็น Windows Server ที่รองรับการใช้งาน 2 CPU รองรับการใช้งาน Virtualization ได้ไม่จำกัด VM และต้องซื้อ Windows Server CAL ควบคู่การใช้งานตามจำนวน User หรือ Device ที่เข้าใช้งาน Server
ตารางเปรียบเทียบเปรียบเทียบฟีเจอร์ในการสร้าง Virtualization ในรุ่น Standard และ Datacenter
หลักการคิดสิทธิ์การใช้งานรูปแบบ Core-base License ของ Windows Server 2016
หลัักการคิดสิทธิ์การซื้อ Windows Server 2016 License นั้น ก่อนอื่นต้องรู้ข้อมูลต่อไปนี้เพื่อง่ายต่อการคำนวณ
- จำนวน CPU ที่มีอยู่ในเครื่อง Server (1,2 หรือ 4 CPU)
- จำนวน Core ต่อ CPU (4,6,8,10 Etc.)
- จำนวณ VM ที่ต้องการติดตั้งในเครื่อง Server
วิธีคำนวณ CPU+Core ให้ใช้จำนวน CPU คูณด้วยจำนวน Core ของ CPU ถ้าน้อยกว่า 16 Core ให้ซื้อขั้นต่ำ 16 Core ถ้ามากกว่าให้ซื้อตามจำนวณ Core จริง
วิธีคำนวณ VM (เฉพาะ Standard Edition) เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ VM ให้เทียบจำนวน 2 VM ต่อ 1 สิทธิ์การใช้งาน เช่น ถ้าใช้ 0 หรือ 2 VM ให้นับเป็น 1, ถ้าใช้ 3 VM ให้นับเป็น 2, ถ้าใช้ 6 VM ให้นับ 3 เป็นต้น
แล้วนำผลการคำนวณ CPU+Core กับ VM มาคูณกันจะได้จำนวณ Core-Base License ที่ต้องซื้อ
Microsoft Windows Server 2016 ขาย 1 License = 2 Core เพราะฉะนั้น Server 1 เครื่ิองต้องซื้อ 8 License เพื่อให้ได้ 16 Core ตามข้อกำหนดขั้นต่ำของ 1 Server
ตัวอย่างที่ 1 : Server มี 1 CPU ใช้ Intel Xeon E3-1225 v5 มี 4 Core ไม่ใช้ VM จะต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard จำนวนเท่าไหร่ ?
ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์
- จำนวน CPU ที่มีอยู่ในเครื่อง Server = 1 CPU
- จำนวน Core ต่อ CPU = 4 Core
- จำนวณ VM ที่ต้องการติดตั้งในเครื่อง Server = 0
คำนวณ : 1 CPU x 4 Core x 1 VM = 4 Core
คำตอบ : ต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard 8 License (1 License = 2 Core รวมแล้วได้ 16 Core ตามเงื่อนไขขั้นต่ำของ Server 1 เครื่อง)
ตัวอย่างที่ 2 : Server มี 2 CPU ใช้ Intel Xeon Silver 4110 มี 8 Coreไม่ใช้ VM จะต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard จำนวนเท่าไหร่ ?
ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์
- จำนวน CPU ที่มีอยู่ในเครื่อง Server = 2 CPU
- จำนวน Core ต่อ CPU = 8 Core
- จำนวณ VM ที่ต้องการติดตั้งในเครื่อง Server = 0
คำนวณ : 2 CPU x 8 Core x 1 VM = 16 Core
คำตอบ : ต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard 8 License (1 License = 2 Core รวมแล้วได้ 16 Core)
ตัวอย่างที่ 3 : Server มี 2 CPU ใช้ Intel Xeon Silver 4114 มี 10 Core ใช้ 2 VM จะต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard จำนวนเท่าไหร่ ?
ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์
- จำนวน CPU ที่มีอยู่ในเครื่อง Server = 2 CPU
- จำนวน Core ต่อ CPU = 10 Core
- จำนวณ VM ที่ต้องการติดตั้งในเครื่อง Server = 2
คำนวณ : 2 CPU x 10 Core x 1 VM = 20 Core
คำตอบ : ต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard 10 License (1 License = 2 Core รวมแล้วได้ 20 Core)
ตัวอย่างที่ 4 : Server มี 2 CPU ใช้ Intel Xeon Silver 4114 มี 10 Core ใช้ 5 VM จะต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard จำนวนเท่าไหร่ ?
ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์
- จำนวน CPU ที่มีอยู่ในเครื่อง Server = 2 CPU
- จำนวน Core ต่อ CPU = 10 Core
- จำนวณ VM ที่ต้องการติดตั้งในเครื่อง Server = 5
คำนวณ : 2 CPU x 10 Core x 3 VM = 60 Core
คำตอบ : ต้องซื้อ Windows Server 2016 Standard 30 License (1 License = 2 Core รวมแล้วได้ 60 Core)
SKU สำหรับการซื้อ Windows Server 2016 License
Part Number | Description | License Model | CAL Requirements |
9EM-00124 | WinSvrSTDCore 2016 SNGL OLP 2Lic NL CoreLic | Core-base | Windows Server CAL |
9EM-00118 | WinSvrSTDCore 2016 SNGL OLP 16Lic NL CoreLic | Core-base | Windows Server CAL |
9EA-00128 | WinSvrDCCore 2016 SNGL OLP 2Lic NL CoreLic Qlfd | Core-base | Windows Server CAL |
9EA-00122 | WinSvrDCCore 2016 SNGL OLP 16Lic NL CoreLic Qlfd | Core-base | Windows Server CAL |
Windows Server Client Access License (CAL)
Windows Server CAL เป็นรูปแบบสิทธิการใช้งานของเครื่องไคลเอ็นต์ในการเข้าใช้ทรัพยากรบนเครื่องเซิรฟ์เวอร์
โดยสามารถเข้า ใช้งานเซิรฟ์เวอร์ได้มากกว่า 1 เครื่องที่เป็นเวอร์ชั้นเดียวกันหรือเวอร์ชั้นต่ำกว่า CAL แบ่งเป็น 2 ประเภท
- Windows Server User CAL : คิดตามจำนวนผู้ใช้โดย 1 User CAL จะอนุญาตให้ผู้ใช ้1 คนเข้าใช้บริการบนเซริฟ์เวอร์ได้จากทุกอปุกรณ์
- Windows Server Device CAL : คิดตามจำนวนอุปกรณ์ โดย 1 Device CAL จะอนุญาติให้เชื่่อมต่อกับเซิรฟ์เวอร์ได้จาก 1 อุปกรณ์เท่านั้น
แต่ไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์นั้นๆ
โดยมีหลักการซื้อง่ายๆคือ นับอันไหนได้น้อยให้ซื้ออันนั้น เช่น มี User มากกว่า Device ให้ซื้อ Device CAL ตามจำนวน Device กรณีที่ Device มากกว่า User ให้ซื้อ User CAL
โดย Device หมายถึงอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมเพื่อใช้งาน Server อันได้แก่ Desktop PC, Notebook, Tablet หรือ Smart Phone
ยกตัวอย่างเช่น
- User 1 คน มีอุปกรณ์ใช้งานอยู่ 2 อย่าง คือ เครื่อง PC 1 เครื่อง และ Notebook 1 ตัว แสดงว่า User น้อยกว่า Device ให้ซื้อ User CAL
- ห้องสมุดมีเครื่อง PC 5 เครื่องเพื่อให้บริการคนที่มาใช้งานในห้องสมุดจำนวนมาก แสดงว่า User มากกว่า Device ให้ซื้อ Device CAL
SKU สำหรับการซื้อ Windows Server CAL
Part Number | Description | License Model |
R18-05121 | WinSvrCAL 2016 SNGL OLP NL DvcCAL | Windows CAL |
R18-05123 | WinSvrCAL 2016 SNGL OLP NL UsrCAL | Windows CAL |